จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากทั่วโลกในรอบ 24 ชั่วโมง เพิ่มขึ้น 1 แสนกว่าราย มาอยู่ที่ 5,213,991 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 5 พันกว่าศพ มาอยู่ที่ 338,249 ศพ รักษาหายแล้ว 2,058,581 ราย จากการรายงานของศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ เมื่อเวลา 13.32 น. วันที่ 23 พ.ค.
- สหรัฐฯ ยังครองอันดับ 1 ของโลก ทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต และภายในรอบ 24 ชั่วโมง มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 2.4 หมื่นราย มาอยู่ที่ 1,601,434 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1.29 พันศพ มาอยู่ที่ 96,007 ศพ และในส่วนรัฐนิวยอร์ก ศูนย์กลางการแพร่ระบาดของสหรัฐฯ เสียชีวิตมากสุด 28,853 ศพ
- บราซิลแซงหน้ารัสเซีย มาอยู่อันดับ 2 ของโลกไปแล้ว เนื่องจากในแต่ละวันจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นแตะหลักหมื่น นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดรุนแรงเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และภายในรอบ 24 ชั่วโมง มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 2.1 หมื่นราย มาอยู่ที่ 332,382 ราย เสียชีวิต เพิ่มขึ้น 1 พันกว่าศพ มาอยู่ที่ 21,116 ศพ
- รัสเซีย อันดับ 3 ของโลก ผู้ติดเชื้อเริ่มชะลอตัวลงจากตัวเลขหลักหมื่นมาหลักพัน และภายในรอบ 24 ชั่วโมง เพิ่มขึ้น 8.8 พันราย มาอยู่ที่ 326,448 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 150 ศพ มาอยู่ที่ 3,249 ศพ ซึ่งอัตราการเสียชีวิตยังต่ำ อยู่อันดับที่ 17 ของโลก
- ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิดในอังกฤษ อยู่อันดับ 2 ของโลก อยู่ที่ 36,475 ศพ จากจำนวนผู้ติดเชื้อ 255,544 ราย ตามมาด้วยอิตาลี เสียชีวิตอันดับ 3 ของโลก อยู่ที่ 32,616 ศพ จากจำนวนผู้ติดเชื้อ 228,658 ราย
- อีกหนึ่งความหวังในการยับยั้งเชื้อไวรัสโควิด เมื่อสหรัฐฯ มีการวางแผนทดสอบวัคซีนครั้งใหญ่กับอาสาสมัครมากกว่า 100,000 คน โดยจะทดสอบวัคซีนของบริษัทอย่างน้อย 6 แห่ง เพื่อให้ได้วัคซีนที่มีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากที่สุดภายในสิ้นปีนี้
- วัคซีนของบริษัท Moderna จะเป็นรายแรกที่เข้าร่วมทดลองในเดือนก.ค.นี้ ขณะที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด และบริษัท AstraZeneca ของอังกฤษ อาจจะเข้าร่วมทดลองด้วย ถือเป็นการย่นระยะเวลาในการพัฒนาและทดสอบวัคซีน จากปกติที่ใช้เวลานับ 10 ปี ลดลงเหลือเพียงไม่กี่เดือน
- เช่นเดียวกับจีน ทดลองวัคซีนตัวแรก ในระยะที่ 1 ซึ่งได้ผลดีมีความปลอดภัย ทนทาน และสร้างภูมิคุ้มกันในมนุษย์ได้ โดยจะมีการประเมินผลครั้งสุดท้ายภายใน 6 เดือน และจะทดลองเพิ่มเติมดูการตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน สามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด ได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่
- ในกลุ่มประเทศอาเซียน สิงคโปร์ ยังคงอันดับ 1 โดยในรอบ 24 ชั่วโมง ผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 614 ราย มาอยู่ที่ 30,426 ราย เสียชีวิตคงที่ 23 ศพ ตามมาด้วยอินโดนีเซีย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 634 ราย มาอยู่ที่ 20,796 ราย ส่วนอัตราการเสียชีวิตสูงที่สุดในอาเซียน ภายในวันเดียวเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 48 ศพ มาอยู่ที่ 1,326 ศพ
- ฟิลิปปินส์ อยู่อันดับ 3 ในอาเซียน ภายในรอบ 24 ชั่วโมง มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 163 ราย มาอยู่ที่ 13,597 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 11 ศพ มาอยู่ที่ 857 ศพ ตามมาด้วยมาเลเซีย อันดับที่ 4 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 78 ราย มาอยู่ที่ 7,137 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ศพ มาอยู่ที่ 115 ศพ และไทย มีผู้ติดเชื้อ 30,040 ราย เสียชีวิตคงที่ 56 ศพ
- อันดับโลกของไทย อยู่อันดับที่ 73 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 ราย ซึ่งยังเป็นตัวเลขตัวเดียวสลับกับตัวเลขผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์ในบางวัน หลังมีการประกาศเคอร์ฟิว ล่าสุดผู้ป่วยสะสมรวม 3,040 ราย หายป่วยแล้ว 2,916 ราย ยังคงรักษาตัวในโรงพยาบาล 68 ราย เสียชีวิตคงที่ 56 ศพ
- ผู้ติดเชื้อรายใหม่ เป็นนักศึกษาชายไทย อายุ 24 ปี เพิ่งกลับจากอียิปต์ เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา อีกรายเป็นหญิงไทย อายุ 43 ปี พนักงานสปา กลับจากอินเดียเมื่อวันที่ 15 พ.ค. โดยสองรายนี้เข้าสถานกักกันโรคของรัฐใน จ.ชลบุรี ทันทีหลังกลับจากต่างประเทศ ซึ่งเมื่อวันที่ 22 พ.ค. มีผลการตรวจยืนยันติดเชื้ออย่างไม่เป็นทางการ และรายที่ 3 เป็นชายสัญชาติอิตาลี อายุ 49 ปี อาศัยในภูเก็ต เข้ารับการตรวจหาเชื้อเมื่อวันที่ 22 พ.ค.
- สถิติตั้งแต่เดือน ก.พ. มาจนถึงวันที่ 23 พ.ค. พบว่าผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิดในสถานกักกันโรคของรัฐ จำนวน 104 ราย จากจำนวน 24,211 รายที่เดินทางมาจากต่างประเทศ โดยอายุส่วนใหญ่เฉลี่ย 37 ปี อายุน้อยสุด 15 ปี อายุสูงสุด 77 ปี แยกเป็นสัญชาติไทย 98% สัญชาติอเมริกัน 1% และอังกฤษ 1%
อ่านเพิ่มเติม...
"หยุด" - Google News
May 23, 2020 at 03:43PM
https://ift.tt/3geJfgX
โลกต้องจารึก เหยื่อโควิดตายไม่หยุด 3.38 แสนศพ ภูเก็ตติดเชื้อรายที่ 226 - ไทยรัฐ
"หยุด" - Google News
https://ift.tt/3cODc0y
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://ift.tt/3dSbAaS
Bagikan Berita Ini
0 Response to "โลกต้องจารึก เหยื่อโควิดตายไม่หยุด 3.38 แสนศพ ภูเก็ตติดเชื้อรายที่ 226 - ไทยรัฐ"
Post a Comment